Last updated: 3 ก.พ. 2568 | 20027 จำนวนผู้เข้าชม |
คีลอยด์ เป็นแผลเป็นนูนที่เกิดจากการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อแผลเป็นมากกว่าปกติ มักเกิดหลังจากมีบาดแผล เช่น แผลผ่าตัด แผลจากการเจาะหู หรือแผลสิว
คีลอยด์ไม่สามารถหายเองได้และอาจขยายตัวใหญ่ขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา อย่างไรก็ตาม มีหลายวิธีที่ช่วยลดขนาดและทำให้แผลเรียบขึ้น ไปดูกันในบทความนี้เลยค่ะ
คีลอยด์ คือ แผลเป็น ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะนูน โดยสามารถขยายขอบเขตของแผลออกไปได้มากกว่าแผลเดิม เช่นแผลเป็นจริงยาวเพียง 1 ซม. แต่คีลอยด์กลับใหญ่โตเกือบ 20 ซม.
สีของแผลคีลอยด์นั้นก็จะแตกต่างกันออกไป มีทั้งสีคล้ำ สีแดง รอยช้ำ สามารถเกิดขึ้นทันทีที่แผลหายหรือบางกรณีก็เกิดขึ้นหลังจากแผลหายไปได้แล้วสักระยะ แม้จะไม่มีอันตรายร้ายแรงแต่ก็อาจเกิดอาการคัน แสบ หรือเกิดแผลพุพองขึ้นได้หากมีการเกาหรือเสียดสีบ่อยๆ รวมถึงทำให้ผิวพรรณดูไม่สวยงามอีกด้วย
แผลเป็นคีลอยด์ เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันออกไปหลักๆ แล้วคือกระบวนการรักษาที่เกิดความผิดปกติของร่างกาย ที่ปกติแล้วผิวหนังของเราจะผลิตคอลลาเจนและเนื้อเยื่อขึ้นมาสำหรับการซ่อมแซมส่วนที่เป็นแผลแต่บางครั้งก็ผลิตออกมาเยอะจนเกินไปทำให้เกิดแผลนูนขึ้นมากกว่าปกติหรือคีย์ลอยด์
โดยอาจมีจุดเริ่มต้นมาจากแผลไฟไหม้ แผลผ่าตัด แผลจากอุบัติเหตุ แผลจากอีสุกอีใส การแกะหรือบีบสิว เป็นต้น
คีลอยด์ จะสามารถเกิดขึ้นได้แทบทุกที่ในร่างกาย แต่ส่วนที่มักพบบ่อยที่สุดนั้นจะอยู่บริเวณ ติ่งหู ลำคอ หัวไหล่ หน้าอก และหลัง
แผลเป็นคีลอยด์มักเกิดขึ้นหลังจากการเกิดแผลเป็น (Scar) อาทิ แผลจากการผ่าตัด, แผลไฟไหม้, แผลจากอุบัติเหตุ, แผลจากอีสุกอีใส หรือการแกะสิวจนอักเสบและลุกลาม
ลักษณะของคีลอยด์อาการเริ่มต้นจะมีสีชมพูหรือไม่ก็สีม่วง จากนั้นสีผิวจะซีดลงหรือเปลี่ยนเป็นสีเข้มเมื่อเวลาผ่านไป และเกิดเป็นแผลนูนขึ้น
บริเวณที่เกิดคีย์ลอยด์ขึ้นมักจะไม่มีขนขึ้น เนื้อผิวมีลักษณะนูนแต่ว่าเรียบเนียน
แผลคีลอยด์ไม่ก่อให้เกิดเกิดอันตรายแต่อาจทำให้มีความรู้สึกแสบคัน เจ็บ ระคายเคือง เมื่อเกิดการเสียดสี โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่อาจมีอาการคันมากเป็นพิเศษ ซึ่งหากเผลอไปเกาบ่อยๆ อาจทำให้ผิวหนังเกิดแผลลุกลามขึ้นได้
หากไม่ทำการรักษาแผลเป็นคีลอยด์อาจคงอยู่ได้หลายปีหรือตลอดไป ส่วนการเกิดนั้นอาจเกิดทันทีเมื่อเป็นแผลเป็นหรือทิ้งช่วงเป็นเวลานานถึงจะเกิดขึ้นก็ได้
การรักษาแผลเป็นคีลอยด์ สามารถทำได้หลายวิธีทั้งการทายา การฉีดคีลอยด์ เพื่อลบแผลผ่าตัด แผลไฟไหม้ แผลนูน ให้ลดเลือนลง เรามาดูรายละเอียดของการรักษาคีลอยด์แบบต่างๆ กันเลย
การใช้แผ่นแปะแผลเป็นคีลอยด์ เป็นวิธีที่สามารถลดรอยแผลเป็นนูนได้ทั้งแผลเก่าและแผลใหม่ ด้วยการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่เกิดเป็นคีลอยด์ ช่วยให้รอยแผลที่นูนราบเรียบลง สีจางลง ซึ่งการใช้แผ่นแปะแผลเป็นคีลอยด์นี้หญิงตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ได้
การใช้ยาทาแผลเป็นคีลอยด์ โดยตัวยาที่ใช้นั้นก็จะมีทั้งแบบเจลและแบบครีม วิธีนี้สามารถรักษาแผลจากรอยสิวได้ด้วยการใช้ตัวยารักษาเนื้อเยื่อและลดร่องรอยของแผลที่เกิดขึ้นในบริเวณที่ทายา
การฉีดคีย์ลอย อีกวิธีที่ได้รับความนิยมและได้ผลน่าพอใจก็คือการฉีดคีย์ลอย เป็นการฉีดยาเพื่อรักษาบริเวณที่เกิดคีลอยด์โดยตรง ซึ่งจะหายช้าหรือเร็วนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแผลกับตัวยา โดยปกติแล้วแพทย์จะนัดให้เข้ารับการฉีดยาต่อเนื่องเดือนละครั้ง จนกว่าจะได้ผลการรักษาที่น่าพอใจ (มีบริการที่อินทัชเมดิแคร์)
การใช้ความเย็นจัดในการรักษา การใช้ความเย็นจัดเป็นอีกวิธีที่สามารถทำให้แผลคีลอยด์แบนเรียบลงได้ โดยเหมาะกับแผลที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ขั้นตอนการรักษาจะเป็นการให้แผลเป็นรับความเย็นสูงจากสารไนโตรเจนเหลวและมักทำควบคู่กันไปกับการรักษาด้วยวิธีอื่นอาทิการฉีดสเตียรอยด์ เป็นต้น
คีลอยด์ไม่สามารถหายเองได้ และมักมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะในคนที่มีแนวโน้มเกิดคีลอยด์ง่าย ควรหาทางรักษาเพื่อลดขนาดหรือป้องกันไม่ให้ใหญ่ขึ้น
สามารถรักษาให้เล็กลงได้ แต่ไม่สามารถทำให้หายขาด 100% ได้ วิธีรักษามีหลายแบบตามหัวข้อข้างต้น ต้องใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสมและอาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง
สถานที่ที่เหมาะสำหรับรักษาคีลอยด์ ได้แก่ คลินิกผิวหนังหรือคลินิกศัลยกรรม คลินิกฉีดคีลอยด์ และโรงพยาบาลที่มีแผนกผิวหนังหรือศัลยกรรมตกแต่ง
แผลเป็นคีย์ลอยนั้นมีหลายแบบ หลายขนาด อายุของแผลก็แตกต่างกันออกไป การรักษาจึงจำเป็นที่จะต้องมีการวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อรับแนวทางที่เหมาะสมเป็นรายไป เช่นบางรายอาจใช้การฉีดคีลอยด์ บางรายอาจต้องผ่าตัด เป็นต้น สำหรับท่านที่มีปัญหาแผลเป็นคีลอยด์
สามารถเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาได้ที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมทุกสาขาใกล้บ้านด้วยการค้นหาจากคลินิกใกล้ฉันใน Google หรือสอบถามผ่านช่องทางบนเว็บไซต์ เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด ด้วยขั้นตอนที่สะดวกสบายในราคาสบายกระเป๋า
บทความที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย อัชวิน ธรรมสุนทร
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com
22 มี.ค. 2565
3 พ.ค. 2565
14 มี.ค. 2565
6 พ.ค. 2565