รังแค เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกคนไม่ว่าวัยไหนเพศไหน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการผลัดเซลล์ผิวหนังเร็วเกินไป การติดเชื้อรา หนังศีรษะแห้ง โรคผิวหนัง
รวมไปถึงการให้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะก็ทำให้เกิดได้ ในบทความนี้เราจะไปดูกันว่าอาการแต่ละแบบเป็นอย่างไร และจะมีวิธีการดูแลและรักษารังแคแบบไหนบ้าง
ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับรังแค
รังแค (Dandruff) คือ อาการที่หนังศีรษะลอกเป็นแผ่นหรือเป็นเกล็ดเล็ก ๆ ซึ่งเกิดจากการผลัดเซลล์ผิวหนังที่หนังศีรษะเร็วเกินไป สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย อาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือมีอาการคันที่หนังศีรษะร่วมด้วย ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลายประการ
ลักษณะ : เกล็ดเล็กๆ สีขาว แห้ง และเบา มักจะหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นเล็ก ๆ
สาเหตุ : หนังศีรษะแห้ง การขาดความชุ่มชื้น หรือสภาพอากาศแห้ง
อาการร่วม : อาจมีอาการคันที่หนังศีรษะ
วิธีป้องกันและรักษา : ใช้แชมพูที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและรักษาความชุ่มชื้นของหนังศีรษะ หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ
ลักษณะ : เกล็ดสีเหลือง หนา และเหนียว มักจะติดอยู่กับหนังศีรษะหรือเส้นผม
สาเหตุ : การผลิตน้ำมันที่มากเกินไป การติดเชื้อรา เช่น Malassezia
อาการร่วม : อาจมีอาการคันและหนังศีรษะมัน
วิธีป้องกันและรักษา : ใช้แชมพูสูตรต้านเชื้อรา ควบคุมความมันของหนังศีรษะ และรักษาความสะอาด
การผลัดเซลล์ผิวหนังที่เร็วเกินไป เซลล์ผิวหนังที่ตายหลุดลอกออกมาบ่อยเกินไป ทำให้เกิดเป็นเกล็ดขาวๆ ที่มองเห็นได้ชัดเจน
ติดเชื้อราที่หนังศีรษะ เช่น Malassezia ที่พบในหนังศีรษะ สามารถทำให้เกิดการอักเสบร่วมด้วย
หนังศีรษะแห้ง คนที่มีหนังศีรษะแห้งมักจะมีแนวโน้มที่จะเกิดขุยขาวๆมากกว่า
โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) หรือโรคผื่นผิวหนังอักเสบ (Seborrheic dermatitis)
ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะกับเส้นผม การใช้แชมพูหรือผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
ขุยขาวบนหนังศีรษะ หรือเกล็ดเล็กๆ ที่หลุดออกจากหนังศีรษะสามารถเห็นได้บนเสื้อผ้าหรือหวี
คันหนังศีรษะ เป็นหนึ่งในอาการที่พบบ่อย ทำให้รู้สึกไม่สบายและทำให้หนังศีรษะเป็นแผลจากการเกาแรงๆ
หนังศีรษะแห้งหรือมันเกินไป มีความมันหรือแห้งผิดปกติ
หนังศีรษะแดง มีรอยแดงๆ หรือระคายเคืองบนหนังศีรษะ
หนังศีระษะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เกิดขึ้นได้ในบางกรณีเนื่องจากการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและความมัน
รังแคไม่ใช่โรคติดต่อ การสัมผัสหรือใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น หวี หมวก หรือผ้าเช็ดตัว ไม่สามารถติดต่อกันได้ อย่างไรก็ตาม การรักษาความสะอาดส่วนบุคคลและการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญในการป้องกันและรักษารังแค
ใช้แชมพูขจัดรังแคอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยลดอาการและทำให้หนังศีรษะมีสุขภาพดีขึ้น โดยเลือกแชมพูที่เหมาะสมกับสภาพหนังศีรษะ หลังสระผมและครีมนวดผมต้องล้างน้ำออกให้สะอาด
|
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนจัดสระผม เพราะอาจทำให้หนังศีรษะแห้งและกระตุ้นการสร้างน้ำมัน
นวดหนังศีรษะอย่างอ่อนโยนเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยลดการอุดตันของเซลล์ผิวที่ตาย
งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น เจล, สเปรย์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ ที่อาจทำให้หนังศีรษะแห้งหรือกระตุ้นการสร้างน้ำมัน
นวดน้ำมันมะพร้าวบนหนังศีรษะและทิ้งไว้ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนล้างออก ช่วยรักษาความชุ่มชื้น
ผสมน้ำมันทีทรี (Tea Tree Oil) ไม่กี่หยดกับแชมพูและใช้เป็นประจำ เนื่องจากน้ำมันทีทรีมีคุณสมบัติต้านการอักเสบได้
โยเกิร์ตและน้ำผึ้งผสมทาบนหนังศีรษะ ปล่อยทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก ซึ่งมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและลดการอักเสบ
ทำทั้ง 3 วิธี ได้บ่อยครั้งตามต้องการหรืออย่างน้อย 2-3 ครั้ง/สัปดาห์
การรักษารังแคกับแพทย์เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด หากใช้แชมพูทั่วไปไม่ได้ผลหรือมีอาการรุนแรงขึ้น แพทย์ผิวหนังสามารถให้คำปรึกษาและการรักษาที่มีประสิทธิภาพได้ โดยแพทย์จะทำขึ้นตอนดังนี้
สอบถามประวัติและอาการ แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับประวัติการเกิดรังแคและอาการที่คุณพบ
ตรวจหนังศีรษะ แพทย์จะตรวจดูหนังศีรษะและเส้นผมอย่างละเอียดเพื่อตรวจหาสาเหตุ
รักษาด้วยแชมพูที่มีส่วนประกอบทางยาที่เข้มข้นขึ้น เช่น แชมพูที่มี Ketoconazole, Selenium sulfide
รักษาโดยยาทาภายนอกหรือครีม หากมีการอักเสบหรืออาการคันรุนแรง เช่น ครีมสเตียรอยด์
ในบางกรณีที่รุนแรง แพทย์อาจสั่งยารับประทาน เช่น ยาต้านเชื้อรา
แพทย์จะนัดติดตามผลการรักษาเพื่อประเมินประสิทธิภาพของการรักษาและปรับเปลี่ยนวิธีการตามความจำเป็น
หากการรักษาไม่เป็นผล แพทย์อาจปรับเปลี่ยนแผนการรักษา เช่น เปลี่ยนยา หรือแนะนำการรักษาทางเลือก
สรุป
รังแคเป็นภาวะที่เกิดจากการผิวหนังหนาขึ้นในบางพื้นที่ของหนังศีรษะ ทำให้เกิดเกล็ดผิวและคัน สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ผิวที่เป็นปกติ การใช้แชมพูพิเศษและการดูแลรักษาที่ถูกต้องช่วยลดอาการได้ หากมีปัญหารุนแรงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับการรักษารังแค
|
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย นายอัชวิน ธรรมสุนทร
แก้ไขล่าสุด : 26/06/2024
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com